Imagine two people are listening to music. What are the odds that they are listening to the exact same playlist? Probably pretty low. After all, everyone has very different tastes in music. Now, what are the odds that your body will need the exact same medical care and treatment as another person's body? Even lower. As we go through our lives, each of us will have very different needs for our own healthcare. Scientists and doctors are constantly researching ways to make medicine more personalized. One way they are doing this is by researching stem cells. Stem cells are cells that are undifferentiated, meaning they do not have a specific job or function. While skin cells protect your body, muscle cells contract, and nerve cells send signals, stem cells do not have any specific structures or functions. Stem cells do have the potential to become all other kinds of cells in your body. Your body uses stem cells to replace worn-out cells when they die. For example, you completely replace the lining of your intestines every four days. Stem cells beneath the lining of your intestines replace these cells as they wear out. Scientists hope that stem cells could be used to create a very special kind of personalized medicine in which we could replace your own body parts with, well, your own body parts. Stem cell researchers are working hard to find ways in which to use stem cells to create new tissue to replace the parts of organs that are damaged by injury or disease. Using stem cells to replace damaged bodily tissue is called regenerative medicine. For example, scientists currently use stem cells to treat patients with blood diseases such as leukemia. Leukemia is a form of cancer that affects your bone marrow. Bone marrow is the spongy tissue inside your bones where your blood cells are created. In leukemia, some of the cells inside your bone marrow grow uncontrollably, crowding out the healthy stem cells that form your blood cells. Some leukemia patients can receive a stem cell transplant. These new stem cells will create the blood cells needed by the patient's body. There are actually multiple kinds of stem cells that scientists can use for medical treatments and research. Adult stem cells or tissue-specific stem cells are found in small numbers in most of your body's tissues. Tissue-specific stem cells replace the existing cells in your organs as they wear out and die. Embryonic stem cells are created from leftover embryos that are willingly donated by patients from fertility clinics. Unlike tissue-specific stem cells, embryonic stem cells are pluripotent. This means that they can be grown into any kind of tissue in the body. A third kind of stem cells is called induced pluripotent stem cells. These are regular skin, fat, liver, or other cells that scientists have changed to behave like embryonic stem cells. Like embryonic stem cells, they, too, can become any kind of cell in the body. While scientists and doctors hope to use all of these kinds of stem cells to create new tissue to heal your body, they can also use stem cells to help understand how the body works. Scientists can watch stem cells develop into tissue to understand the mechnanisms that the body uses to create new tissue in a controlled and regulated way. Scientists hope that with more research, they can not only develop specialized medicine that is specific to your body but also better understand how your body functions, both when it's healthy and when it's not.
ลองจินตนาการถึงคนสองคนกำลังฟังดนตรี จะมีโอกาสเท่าไร ที่พวกเขากำลังฟัง รายการเพลงที่เหมือนกันเปี๊ยบ น่าจะค่อนข้างต่ำ อย่างไรก็ดี ทุกคนมีความชอบในดนตรีที่ต่างกัน ทีนี้ จะมีโอกาสสักเท่าไร ที่ร่างกายของคุณจะต้องการ การดูแลและบำบัดทางการแพทย์ที่เหมือนกันทุกประการ กับร่ายกายของคนอีกคน ยิ่งต่ำกว่าเสียอีก ขณะที่เราเติบโตขึ้น พวกเราแต่ละคนจะมีความต้องการที่แตกต่างกันไป สำหรับการดูแลร่างกายของเรา นักวิทยาศาสตร์และแพทย์วิจัยอย่างจริงจังเพื่อหาทาง ที่จะทำให้การแพทย์นั้นเป็นแบบส่วนบุคคล ทางหนึ่งที่พวกเขากำลังทำ คือการทำวิจัยด้านเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell) เซลล์ต้นกำเนิดคือ เซลล์ที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง หมายความว่า พวกมันไม่มีหน้าที่หรืองานจำเพาะ เมื่อเซลล์ผิวหนังปกป้องร่างกายของคุณ เซลล์กล้ามเนื้อหดตัว และเซลล์ประสาทส่งสัญญาณ เซลล์ต้นแบบไม่มีโครงสร้างที่จำเพาะ หรือมีหน้าที่จำเพาะใดๆ เซลล์ต้นกำเนิดมีความสามารถ ที่จะกลายเป็นเซลล์ในร่างกายคุณได้ทุกชนิด ร่างกายของคุณใช้เซลล์ต้นกำเนิด ทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพเมื่อพวกมันตาย ยกตัวอย่างเช่น คุณทดแทน เยื่อบุของลำไส้เล็กคุณทุกๆ สี่วัน เซลล์ต้นกำเนิดใต้เยื่อบุของลำไส้เล็ก แทนที่เซลล์เหล่านี้เมื่อพวกมันเสื่อมไป นักวิทยาศาสตร์หวังว่า เซลล์ต้นกำเนิดสามารถนำไปใช้ ในการสร้างยาส่วนบุคคลชนิดที่แสนพิเศษ ซึ่งเราสามารถที่จะทดแทนส่วนต่างๆ ของร่างกายคุณ ด้วยส่วนต่างๆ ของร่างกายคุณเอง นักวิจัยด้านเซลล์ต้นกำเนิดกำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อที่จะหาทางซึ่งจะนำเซลล์ต้นกำเนิด ไปสร้างเป็นเนื้อเยื่อใหม่ เพื่อที่จะทดแทนส่วนของอวัยวะ ที่ถูกทำลายจากการบาดเจ็บหรือจากโรค การใช้เซลล์ต้นกำเนิดเพื่อแทนที่ เนื้อเยื่อร่างกายที่ถูกทำลาย เรียกว่า เวชศาสตร์ฟื้นฟูภาวะเสื่อม (regenerative medicine) ยกตัวอย่างเช่น ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ใช้เซลล์ต้นกำเนิด ในการรักษาผู้ป่วยโรคเลือด อย่างเช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว (leukemia) มะเร็งเม็ดเลือดขาวเป็นมะเร็งชนิดหนึ่ง ที่ส่งผลกระทบต่อไขกระดูกของคุณ ไขกระดูกคือเนื้อเยื่อคล้ายฟองน้ำภายในกระดูกของคุณ ซึ่งเป็นที่ที่เม็ดเลือดของคุณถูกสร้างขึ้น สำหรับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เซลล์เหล่านี้บางเซลล์ในไขกระดูก เติบโตอย่างไม่สามารถควบคุมได้ จนไม่เหลือที่ให้เซลล์ต้นกำเนิดสุขภาพดี ที่เป็นต้นกำเนิดของเซลล์เม็ดเลือด ผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวบางคนสามารถที่จะรับ การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดได้ เซลล์ต้นกำเนิดใหม่เหล่านี้จะสร้าง เซลล์เม็ดเลือดที่ร่างกายผู้ป่วยต้องการ ที่จริงแล้วมันมีเซลล์ต้นกำเนิดอยู่หลายแบบ ที่นักวิทยาศาสตร์สามารถใช้ สำหรับการบำบัดรักษาทางการแพทย์และงานวิจัย เซลล์ต้นกำเนิดในผู้ใหญ่หรือเซลล์ต้นกำเนิดจำเพาะเนื้อเยื่อ พบได้เป็นจำนวนน้อย ในส่วนมากของเนื้อเยื่อร่างกาย เซลล์ต้นกำเนิดจำเพาะของแต่ละเนื้อเยื่อจะแทนที่ เซลล์ที่มีอยู่ในอวัยวะนั้นๆ ของคุณ เมื่อพวกมันเสื่อมลงและตาย เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนถูกสร้างขึ้น จากตัวอ่อนที่ถูกบริจาคด้วยความประสงค์ ของผู้ป่วย จากศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก ไม่เหมือนกับเซลล์ต้นกำเนิดที่จำเพาะต่อเนื้อเยื่อ เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อน นั้นเป็นแบบพลูริโพเทนท์ (pluripotent) นั่นหมายความว่า พวกมันสามารถเจริญเติบโต ไปเป็นเนื้อเยื่อใดๆ ก็ได้ในร่างกาย เซลล์ต้นกำเนิดชนิดที่สาม เรียกว่า เซลล์ต้นกำเนิดแบบ อินดิวซ์พลูริโพเทนท์ (induced pluripotent) พวกมันได้แก่ ผิวหนัง ไขมัน ไต และเซลล์อื่นๆ ที่นักวิทยาศาสตร์ได้เปลี่ยนให้พวกมัน มีพฤติกรรเหมือนกับเซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อน เช่นเดียวกับเซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อน มันก็สามารถกลายเป็นเซลล์ในร่างกายชนิดใดก็ได้ ในระหว่างที่นักวิทยาศาสตร์และหมอหวังที่จะใช้ เซลล์ต้นกำเนิดทุกชนิดเหล่านี้ ในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่เพื่อที่จะรักษาร่างกายของคุณ พวกเขายังสามารถใช้เซลล์ต้นกำเนิด เพื่อช่วยให้เข้าใจถึงการทำงานของร่างกายได้อีกด้วย นักวิทยาศาสตร์สามารถสังเกต พัฒนาการของเซลล์ต้นกำเนิด ไปเป็นเนื้อเยื่อต่างๆ เพื่อที่จะเข้าใจกระบวนการ ที่ร่างกายใช้ในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ภายใต้วิธีที่มีการบังคับและควบคุม นักวิทยาศาสตร์หวังว่า ด้วยการวิจัยที่มากขึ้น พวกเขาไม่เพียงจะสามารถพัฒนายาที่จำเพาะเจาะจง ต่อร่างกายของคุณ แต่ยังจะสามารถเข้าใจได้ดีขึ้น ว่าร่างกายของคุณทำงานอย่างไร ทั้งตอนที่มันมีสุขภาพดี และตอนที่มันไม่เป็นเช่นนั้น