I have a two-year-old daughter named Naya who is under the mistaken impression that this conference is named in honor of her father.
ผมมีลูกสาวคนนึงชื่อว่านาญา เธอรู้สึกประทับใจเพราะเข้าใจผิด ว่างานประชุมนี้ ตั้งชื่อเพื่อเป้นเกียรติแด่พ่อของเธอ
(Laughter)
(เสียงหัวเราะ)
Who am I to contradict my baby girl?
แล้วผมเป็นใครที่จะแย้งลูกสาวผมได้ล่ะ
As many of you know, there's something about becoming a parent that concentrates the mind on long-term problems like climate change. It was the birth of my daughter that inspired me to launch this climate organization, in order to counteract the excessive polarization of this issue in the United States, and to find a conservative pathway forward. Yes, folks, a Republican climate solution is possible, and you know what? It may even be better.
เหมือนที่พวกคุณหลายคนทราบ ว่าการกลายเป็นพ่อแม่ คือคุณต้องมุ่งจุดสนใจไปสู้ปัญหาระยะยาว เหมือนกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การถือกำเนิดของลูกสาวผม เป็นแรงจูงใจให้แก่ผม ในการจัดตั้งองค์กรด้านภูมิอากาศขึ้นมา เพื่อลดปัญหาการแบ่งขั้วตรงข้าม ที่มีมากเกินไป ในสหรัฐอเมริกา และหาแนวทางแบบอนุรักษ์นิยม ที่ทำให้เรามุ่งไปข้างหน้า ใช่แล้วครับทุกท่านการแก้ปัญหาภูมิอากาศ ตามนโยบายพรรครีพับลิกันนั้นเป็นไปได้ และคุณรู้อะไรมั้ย อาจจะดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ
(Laughter)
(เสียงหัวเราะ)
Let me try to prove that to you.
เดี๋ยวผมจะพิสูจน์ให้พวกคุณเห็น
What we really need is a killer app to climate policy. In the technology world, a killer app is an application so transformative that it creates its own market, like Uber. In the climate world, a killer app is a new solution so promising that it can break through the seemingly insurmountable barriers to progress. These include the psychological barrier. Climate advocates have long been encouraging their fellow citizens to make short-term sacrifices now for benefits that accrue to other people in other countries 30 or 40 years in the future. It just doesn't fly because it runs contrary to basic human nature.
สิ่งที่เราต้องการจริงๆคือ สุดยอดแอพเพื่อใช้กับมาตรการลดการปล่อยก๊าซ ในโลกของเทคโนโลยี สุดยอดแอพคือ แอพที่สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง จนสามารถสร้างตลาดของมันขึ้นได้ เช่น รถอูเบอร์ ส่วนในโลกของภูมิอากาศ สุดยอดแอพนั้นคือวิธีการแก้ปัญหาใหม่ ที่มีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จสูง มากพอที่จะก้าวผ่าน อุปสรรคที่ดูเหมือนจะก้าวข้ามไปไม่ได้ เพื่อความก้าวหน้า รวมถึงอุปสรรคทางด้านจิตใจมนุษย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ สนับสนุนให้ประชาชน ทำสิ่งที่เรียกว่าการเสียสละในระยะสั้น เพื่อสร้างประโยชน์แก่คนอื่นๆ ที่อยู่ในต่างประเทศซึ่งในอนาคต อาจจะมีจำนวนถึง 30-40 ประเทศ แต่มันอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะมันขัดต่อหลักธรรมชาติพื้นฐานของมนุษย์
Next is the geopolitical barrier. Under the current rules of global trade, countries have a strong incentive to free ride off the emissions reductions of other nations, instead of strengthening their own programs. This has been the curse of every international climate negotiations, including Paris. Finally, we have the partisan barrier. Even the most committed countries -- Germany, the United Kingdom, Canada -- are nowhere near reducing emissions at the required scale and speed. Not even close. And the partisan climate divide is far more acute here in the United States. We are fundamentally stuck, and that is why we need a killer app of climate policy to break through each of these barriers.
ต่อมาคือกำแพงแห่งภูมิรัฐศาสตร์ และกฏที่ใช้ควบคุมการค้าโลก มีหลายประเทศที่มุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ที่จะลดจำนวนผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นชาติอื่นๆ แทนที่จะทำให้โปรแกรมของตน เข้มแข็งขึ้น ปัญหานี้เป็นคำสาป ที่ไม่อาจหาข้อตกลงในการเจรจาเกี่ยว กับปัญหาภูมิอากาศระดับชาติเช่นที่ปารีส ในที่สุด ก็เกิดมีกลุ่มที่ต่อต้านเรา แม้แต่ในหลายๆประเทศที่ลงนามสัญญา เยอรมนี สหราชอาณาจักรและแคนาดา ไม่แม้แต่จะลดจำนวนการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามหน่วยวัดและระดับความเร็วที่กำหนด ไม่เลยสักนิด กลุ่มคนที่แบ่งแยกเพราะปัญหาภูมิอากาศ ร้ายแรงมาก สำหรับสหรัฐอเมริกา เราจึงอยู่กับที่ และด้วยเหตุนี้เราจำเป็นต้องมีสุดยอดแอพ สำหรับนโยบายทางภูมิอากาศ เพื่อก้าวผ่านขีดจำกัดเหล่านี้
I'm convinced that the road to climate progress in the United States runs through the Republican Party and the business community. So in launching the Climate Leadership Council, I started by reaching out to a who's who of Republican elder statesmen and business leaders, including James Baker and George Schultz, the two most respected Republican elder statesmen in America; Martin Feldstein and Greg Mankiw, the two most respected conservative economists in the country; and Henry Paulson and Rob Walton, two of the most successful and admired business leaders. Together, we co-authored "The Conservative Case For Carbon Dividends." This represents the first time that Republican leaders put forth a concrete market-based climate solution.
ผมเชื่อว่าเส้นทางสู้ความก้าวหน้า ในการแก้ปัญหาภูมิอากาศในสหรัฐอเมริกานั้น สามารถแก้ไขโดยพรรครีพับลิกัน และโดยธุรกิจชุมชม ดังนั้นในการจัดตั้ง องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ผมเริ่มต้นโดยการขอความร่วมมือจาก ผู้อาวุโสที่กล่าวคำเหล่านี้ และผู้นำทางธุรกิจ รวมถึงเจมส์ เบเคอร์และจอร์จ ชูลท์ซ และผู้อาวุโส 2 ท่านของพรรครีพับลิกันผู้กล่าว วาทะที่ได้รับการยกย่องที่สุดในอเมริกา มาร์ติน เฟลด์ชไตน์และเกรก แมนคิว ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์อนุรักษ์นิยม ที่ได้รับการยกย่องที่สุดในประเทศ นอกจากนี้ยังมีเฮนรี่ พอลสันและร็อบ วอลตัน ผู้นำทางธุรกิจ 2 ท่าน ที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่ชื่นชอบที่สุด พวกเราร่วมมือกันดูแลบริหาร ซึ่ง"มาตรการการแบ่งสรรก๊าซเรือนกระจก ตามแนวทางอนุรักษ์นิยม" ซึ่งถูกนำเสนอครั้งแรก ตอนที่ผู้นำพรรครีพับลิกันได้เสนอ แนวทางการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ที่อิงกลไกตลาด
(Applause)
(เสียงปรบมือ)
Thank you.
ขอบคุณครับ
(Applause)
(เสียงปรบมือ)
We presented our plan at the White House two weeks after President Trump moved in. Almost every leading editorial board in the country has since endorsed our plan, and Fortune 100 companies from a wide range of industries are now getting behind it. So by now you're probably wondering, what exactly is this plan?
เราได้นำเสนอแผนของพวกเราแก่ธรรมเนียบขาว ซึ่งเป็นสองสัปดาห์หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ เข้าดำรงตำแหน่ง ผู้นำกองบรรณาธิการเกือบทุกท่านในประเทศ ที่ทำการรับรองแผนของเรา รวมถึงบริษัทชั้นนำ100แห่งที่จัดลำดับ โดยนิตยสารฟอร์จูน ก็ได้ร่วมสนับสนุนแผนการนี้ด้วย เพราะฉะนั้นตอนนี้ท่านคงกำลังสงสัยว่า แผนการนี้มันเป็นยังไงกันแน่
Well, our carbon dividends solution is based on four pillars. The first is a gradually rising carbon tax. Although capitalism is a wonderful system, like many operating systems, it's prone to bugs, which, in this case, are called "market failures." By far the largest is that market prices fail to take social and environmental costs into account. That means every market transaction is based on incorrect information. This fundamental bug of capitalism, more than any other single factor, is to blame for our climate predicament.
การแบ่งสรรก๊าซเรือนกระจกนั้น จะยึดตามเสาหลัก4ประการ ประการแรกคือค่อยๆขึ้นค่าภาษีก๊าซคาบอน แม้ระบบทุนนิยมจะเป็นระบบที่วิเศษ เหมือนกับระบบจัดการระบบอื่นๆ มันก็ทำให้เกิดปัญหา ซึ่งในกรณีนี้เรียกว่า"ความล้มเหลวของตลาด" ราคาตลาดที่ล้มเหลว สร้างความเสียหายมหาศาล เพราะการไม่เห็นค่าของสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยเหตุนี้การแลกเปลี่ยนทางตลาด จึงตั้งอยู่บนข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง จุกบกพร่องพื้นฐานของระบบทุนนิยม คือปัจจัยที่เป็นปัญหามากกว่าปัจจัยอื่นๆ เป็นปัจจัยที่ใช้กล่าวโทษ สำหรับปัญหาภูมิอากาศที่แก้ไม่ตกที่เราเผชิญ
Now in theory, this should be an easy problem to fix. Economists agree that the best solution is to put a price on the carbon content of fossil fuels, otherwise known as a carbon tax. This would discourage carbon emissions in every single economic transaction, every day of the year. However, a carbon tax by itself has proven to be unpopular and a political dead end. The answer is to return all the money raised directly to citizens, in the form of equal monthly dividends. This would transform an unpopular carbon tax into a popular and populist solution, and it would also solve the underlying psychological barrier that we discussed, by giving everyone a concrete benefit in the here and now.
ในทางทฤษฎี ปัญหานี้ง่ายต่อการแก้ไข้ นักเศรษฐศาสตร์เห็นด้วยว่า วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือการติดป้ายราคาปริมาณคาร์บอน ในเชื้อเพลิงฟอสซิล หรือที่รู้กันในชื่อของมาตรการภาษีคาร์บอน ซึ่งอาจทำให้ลดจำนวนการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง ในทุกๆการแลกเปลี่ยนทางการตลาด ทุกๆวันในแต่ละปี อย่างไรก็ตาม,มาตรการภาษีคาร์บอน ไม่เป็นที่นิยมนัก และเป็นมาตรการที่ไร้ทางออก ในทางการเมือง คำตอบคือต้องคืนรายได้ กลับสู่ ประชาชนโดยตรง ในรูปแบบของเงินปันผลรายเดือน วิธีนี้อาจทำให้ภาษีคาร์บอน ที่ไม่ได้รับความนิยม กลายเป็นแนวทางการแก้ปัญหาแบบประชานิยม และยังช่วยแก้ปัญหา อุปสรรคทางด้านจิตใจมนุษย์ โดยมอบผลประโยชน์ที่ยั่งยืนแก่ทุกคน
And these benefits would be significant. Assuming a carbon tax rate that starts at 40 dollars per ton, a family of four would receive 2,000 dollars per year from the get-go. According to the US Treasury Department, the bottom 70 percent of Americans would receive more in dividends than they would pay in increased energy prices. That means 223 million Americans would win economically from solving climate change. And that --
และผลประโยชน์นี้จะมหาศาล คำนวณไว้ว่าอัตราภาษีคาร์บอน จะเริ่มต้นที่ 40 ดอลลาร์ต่อตัน ครอบครัวที่มีสมาชิก4คน จะได้รับ 2,000 ดอลลาร์ต่อปี ตั้งแต่แรกเริ่ม กระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวว่า ชาวอเมริกัน 70% จะได้รับ เงินมากกว่า ที่พวกเขาจ่ายไปกับค่าพลังงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่าชาวอเมริกันกว่า 223 ล้าน จะได้รับรายได้มากขึ้น จากการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และนั่น
(Applause)
(เสียงปรบมือ)
is revolutionary, and could fundamentally alter climate politics.
เรียกว่าการปฏิวัติ และสามารถเปลี่ยนความเห็นแตกต่าง ของแต่ละพรรคที่มีต่อปัญหาการเปลี่ยนภูมิอากาศ
But there's another revolutionary element here. The amount of the dividend would grow as the carbon tax rate increases. The more we protect our climate, the more our citizens benefit. This creates a positive feedback loop, which is crucial, because the only way we will reach our long-term emission-reduction goals is if the carbon tax rate goes up every year.
แต่ก็มีปัจจัยในการปฏิวัติในด้านอื่นๆ จำนวนของเงินปันผลจะเพิ่มขึ้น พร้อมกับอัตราภาษีก๊าซคาร์บอนที่เพิ่มขึ้น ยิ่งเราปกป้องดูแลสภาพอากาศของเรามาก เท่าไหร่ ประชาชนของเราก็ยิ่งได้กำไรมากเท่านั้น สิ่งนี้สร้างผลตอบรับทางบวก ซึ่งสำคัญมาก เพราะทางเดียวที่จะไปถึงเป้าหมาย ในการลดจำนวนการปล่อยก๊าซอย่างยั่งยืน คือการที่อัตราภาษีก๊าซคาร์บอน จะต้องเพิ่มขึ้นทุกปี
The third pillar of our program is eliminating regulations that are no longer needed once a carbon dividends plan is enacted. This is a key selling point to Republicans and business leaders. So why should we trade climate regulations for a price on carbon? Well, let me show you. Our plan would achieve nearly twice the emissions reductions of all Obama-era climate regulations combined, and nearly three times the new baseline after President Trump repeals all of those regulations. That assumes a carbon tax starting at 40 dollars per ton, which translates into roughly an extra 36 cents per gallon of gas. Our plan by itself would meet the high end of America's commitment under the Paris Climate Agreement, and as you can see, the emissions reductions would continue over time. This illustrates the power of a conservative climate solution based on free markets and limited government. We would end up with less regulation and far less pollution at the same time, while helping working-class Americans get ahead. Doesn't that sound like something we could all support?
เสาหลักที่ 3 สำหรับโปรแกรมของเราก็คือ การระเบียบปฏิบัติ ที่ไม่จำเป็นออกไป เมื่อมาตรการการแบ่งสรรคาร์บอนบังคับใช้ กุญแจหลักคือขายเป้าหมายแก่สมาชิก พรรครีพับริกันและผู้นำทางเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นทำไมเราถึงควรแลก ระเบียบปฏิบัติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงฯ เพื่อใช้กับราคาคาร์บอน ให้ผมแสดงให้ทุกท่านเห็นดีกว่า แผนของเราจะลดจำนวนการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นสองเท่า ของระเบียบปฏิบัติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงฯ ที่ออกโดยโอบาม่ารวมกันเสียอีก และมากกว่า 3 เท่าของบรรทัดฐานใหม่ ซึ่งออกหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ ยกเลิกระเบียบปฏิบัติเก่าไป คาดการณ์ว่าภาษีคาร์บอนจะเริ่มต้นที่ 40 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งคิดคร่าวๆเป็น 36% ต่อก๊าซหนึ่งแกลลอน ซึ่งแผนของพวกเรา จะสนองความความต้องการตามข้อตกลง สหรัฐได้ ข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ อย่างที่ทุกท่านพึงเห็น การลดการปล่อยก๊าซฯ จะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป แสดงให้เห็นถึงศักยภาพ ของการแก้ปัญหาภูมิอากาศตามแบบอนุรักษ์ฯ ซึ่งขึ้นอยู่กับตลาดการค้าเสรี และรัฐบาลที่มีอำนาจจำกัด ผลสุดท้ายกฎระเบียบก็จะลดลง และมลพิษก็จะลดลงอย่างมาก ในเวลาเดียวกันยังผลักดันให้ชนชั้นแรงงาน ก้าวหน้า ฟังดูเหมือนเป็นสิ่งที่เรายินดีจะสนับสนุน ใช่ไหมครับ
(Applause)
(เสียงปรบมือ)
The fourth and final pillar of our program is a new climate domino effect, based on border carbon adjustments. Now that may sound complicated, but it, too, is revolutionary, because it provides us a whole new strategy to reach a global price on carbon, which is ultimately what we need. Let me show you an example. Suppose Country A adopts a carbon dividends plan, and Country B does not. Well, to level the playing field and protect the competitiveness of its industries, Country A would tax imports from Country B based on their carbon content. Fair enough. But here's where it gets really interesting, because the money raised at the border would increase the dividends going to the citizens of Country A. Well, how long do you think it would take the public in Country B to realize that that money should be going to them, and to push for a carbon dividends plan in their own land? Add a few more countries, and we get a new climate domino effect.
เสาหลักที่ 4 และสุดท้ายของโปรแกรมเรา อ้างอิงกับมาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน ตอนนี้อาจจะฟังดูซับซ้อน แต่มันก้เปนหนึ่งในวิธีในการปฏิวัติเช่นกัน เพราะมันมอบยุทธวิธีใหม่ให้แก่เรา เพื่อให้ไปถึงราคาคาร์บอนโลก ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดที่เราต้องการ ผมจะยกตัวอย่างให้ทุกท่านได้เห็น การสนับสนุนประเทศ A ซึ่งเป็นประเทศสนับสนุน มาตรการการแบ่งสรรคาร์บอน ส่วนประเทศ B ไม่ทำการสนับสนุน เพื่อที่จะมอบโอกาสให้แก่ทุกฝ่าย และปกป้องการแข่งขัน ในระดับอุตสาหกรรม โดยการที่ประเทศ A อาจเก็บภาษีขาเข้า จากประเทศ B โดยอ้างอิงกับอัตราปริมาณคาร์บอน ฟังดูยุติธรรมดี แต่สิ่งที่น่าสนใจจะเริ่มต่อจากนี้ เพราะเงินที่เก็บจากพรมแดน จะไปเพิ่มยอดเงินปันผล ที่หลั่งไหลไปสู่ประชาชนประเทศ A แล้วคุณคิดว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ ที่สาธรณะชนในประเทศ B จะตระหนัก ว่าเงินที่พวกเขาควรจะได้ และเป็นเงินที่นำไปจ่ายในแผนเงินปันผล ในแผ่นดินพวกเขา และเพิ่มจำนวนประเทศเข้าไป แล้วพวกเราจะได้ปรากฏการณ์โดมินิ ทางสภาพอากาศแบบใหม่
Once one major country or region adopts carbon dividends with border carbon adjustments, other countries are compelled to follow suit. One by one the dominoes fall. And this domino effect could start anywhere. My preference, strongly, is the United States, but it could also start in the United Kingdom, in Germany or another European country, or even in China.
เพียง 1 ประเทศหรือเมืองที่มีขนาดใหญ่ นำมาตรการราคาคาร์บอนมาปรับใช้ ไปพร้อมกับมาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน เป็นเหตุให้ประเทศอื่นๆ ต้องปฏิบัติตาม ทีละประเทศเหมือนกับโดมิโนที่ล้ม และปรากฏการณ์โดมิโน สามารถปรากฏได้ทุกหนทุกแห่ง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คงเป็นในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ปรากฏการณ์นี้สามารถเกิดได้ใน สหราชอาณาจักร เยอรมันนีหรือประเทศอื่นๆในยุโรป หรือแม้แต่ในจีน
Let's take China as an example. China is committed to reducing greenhouse gas emissions, but what its leaders care even more about is transitioning their economy to consumer-led economic development. Well, nothing could do more to hasten that transition than giving every Chinese citizen a monthly dividend. In fact, this is the only policy solution that would enable China to meet its environmental and economic goals at the same time.
ลองยกประเทศจีนเป็นตัวอย่าง จีนยึดมั่นในหลักการลดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจก แต่ท่านผู้นำกลับใส่ใจ การเปลี่ยนรูปแบบเศรษฐกิจไปสู่ การพัฒนาเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการบริโภค ซึ่งไม่มีสิ่งใดที่สามารถเร่ง การเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจให้เร็วขึ้น มากไปกว่าการมอบเงินปันผลรายเดือน ให้แก่ประชาชน ความจริงแล้ว นี่เป็นเพียงมาตรการ การแก้ปัญหาเดียว ที่จะช่วยให้จีนสามารถไปถึงเป้าหมาย ในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ ไปพร้อมๆกัน
That's why this is the killer app of climate policy, because it would enable us to overcome each of the barriers we discussed earlier: the psychological barrier, the partisan barrier, and, as we've just seen, the geopolitical barrier. All we need is a country to lead the way. And one method of finding what you're looking for is to take out an ad. So let's read this one together.
ด้วยเหตุนี้ วิธีนี้จึงสุดยอดแอพ ที่ใช้กับมาตรการภูมิอากาศ เพราะมันจะช่วยให้เราเอาชนะ อุปสรรคต่างๆที่เราได้คุยกันไปก่อนหน้านี้ อุปสรรคทางด้านจิตใจมนุษย์ อุปสรรคของการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย และสิ่งที่เราเพิ่งเห็นไปเมื่อสักครู่ กำแพงแห่งภูมิรัฐศาสตร์ สิ่งที่เราต้องการคือ ให้ประเทศหนึ่งเป็นผู้นำ และวิธีหนึ่งเพื่อใช้ตามหาสิ่งที่คุณกำลัง มองหาอยู่ ก็คือการโฆษณา งั้นเรามาอ่านโฆษณานี้ไปด้วยกันนะครับ
Wanted: country to pioneer carbon dividends plan. Cost to country: zero. Starting date: as soon as possible. Advantages: most effective climate solution, popular and populist, pro-growth and pro-business, shrinks government and helps the working class. Additional compensation: gratitude of current and future generations, including my daughter.
ต้องการ:ประเทศเพื่อริเริ่มแผนการ มาตรการราคาคาร์บอน ค่าใช้จ่าย: ศูนย์ วันเริ่มต้น เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ผลประโยชน์: วิธีการการแก้ปัญหา สภาพภูมิอากาศที่มีประสิทธิผล เป็นประชานิยม สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนการทำธุรกิจ ลดอำนาจรัฐและช่วยเหลือชนชั้นแรงงาน รวมถึงคำขอบคุณ จากคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต รวมถึงลูกสาวผมด้วย
Thank you.
ขอบคุณครับ
(Applause)
(เสียงปรบมือ)
Chris Anderson: Just one question for you, Ted. I'm actually not sure I've seen a conservative get a standing O at TED before that. That's pretty cool. The logic seems really powerful, but some people you talk to in politics say it's hard to imagine this still getting through Congress. How are you feeling about momentum behind this?
คริส แอนเดอสัน: ผมมี 1 คำถาม สำหรับคุณครับเท็ด ผมไม่ค่อยแน่ใจนัก ว่าผมเคยเห็นนักอนุรักษ์นิยมได้รับการชื่นชม อย่างมากในงาน TED ก่อนหน้านี้ ผมว่ามันเจ๋งมาก เป็นตรรกะที่ดูมีประสิทธิภาพ แต่สำหรับบางคนกล่าวในเชิงการเมืองแล้ว บอกว่ายากที่จะจินตนาการ ว่าแผนการนี้จะผ่านเข้าสภาได้อย่างไร คุณรู้สึกอย่างไรกับแรงกดดัน เกี่ยวกับประเด็นนี้ครับ
Ted Halstead: So I understand that many are very pessimistic about what's happening in the United States with President Trump. I'm less pessimistic; here's why. The actions of this White House, the early actions on climate, are just the first move in a complex game of climate chess. So far it's been a repeal-only strategy; the pressure is going to mount for a replacement program, which is where we come in. And there are three reasons why, which I'll go through real quickly.
เท็ด: ผมเข้าใจว่ามีหลายคนมองไปในแง่ร้าย ต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในสหรัฐ โดยปธน.ทรัมป์ ผมเลือกที่จะลดความคิดร้ายลง และนี่คือเหตุผล การปฏิบัติการโดยธรรมเนียบขาว ต่อการแก้ปัญหาภูมิอากาศในช่วงแรกๆ เป็นเพียงแค่ก้าวแรกในเดินเกมส์ แห่งหมากรุกที่ซับซ้อน จนถึงตอนนี้รัฐทำการยกเลิกกฏในเกมส์นี้ไป สิ่งที่กดดันก็คือต้องหาโปรแกรมใหม่มาแทนที่ ซึ่งเป็นจุดที่พวกเราก้าวเข้ามา และมีอยู่ 3 เหตุผลว่าทำไม ผมจะบอกให้ฟังคร่าวๆ
One, the business community is fundamentally parting ways with the White House on climate change. In fact, we're finding a number of Fortune 100 companies supporting our program. Within two months, we're going to be announcing some really surprising names coming out in favor of this program. Two, there is no issue in American politics where there's a more fundamental gap between the Republican base and the Republican leadership than climate change. And three, thinking of this analogy of chess, the big decision up ahead is: Does the administration stay in Paris? Well, let's pan it out both ways. If it stays in Paris, as many are pushing for in the administration, well then that begs a question: What's the plan? We have the plan. But if they don't stay in Paris, the international pressure will be overwhelming. Our Secretary of State will be asking other countries for NATO contributions, and they'll be saying, "No, give us our Paris commitment. Come through on your commitments, we'll come through on ours."
1ธุรกิจชุมชนโดยพื้นฐานแล้ว เป็นส่วนหนึ่ง ในแผนการการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ของธรรมเนียบขาว ความจริง เราพบว่า มีบริษัทกว่าร้อยแห่งที่สนับสนุนโปรแกรมเรา ภายในระยะเวลา 2 เดือน เราจะประกาศให้ทราบว่า มีบุคคลที่แค่ได้ยินชื่อก็คงทำให้ประหลาดใจ ช่วยเหลือโปรแกรมนี้ 2 ในการเมืองอเมริกา ไม่มีประเด็นปัญหาอะไร ที่เป็นช่องว่างระหว่างฐานของพรรครีพับลิกัน และผู้นำพรรครีพับลิกัน มากไปกว่าการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ และ 3 ลองคิดโดยเปรียบเทียบกับเกมส์หมากรุก การตัดสินใจที่สำคัญรออยู่เบื้องหน้าคือ การบริหารจัดการจะตั้งอยู่ที่กรุงปรารีสหรือไม่ ลองพิจารณาทั้งสองด้าน ถ้าการบริหารจัดการอยู่ที่ปรารีส เหมือนกับที่หลายๆท่านต้องการผลักดันให้เป็น มันจึงชวนให้เกิดข้อกังขาว่า แล้วแผนล่ะคืออะไร เรามีแผนรองรับครับ แต่ถ้ามันไม่ได้ตั้งอยู่ที่ปรารีส จะทำให้เกิดแรงกดดันจากนานาชาติ ที่มากเกิน จนเลขานุการแห่งรัฐจะขอความช่วยเหลือ จากประเทศสมาชิกนาโต้ และพวกเขาจะกล่าวว่า "ไม่ จงมอบข้อตกลงปารีสให้พวกเราซะ" "ให้ข้อตกลงของพวกคุณผ่านก่อน ข้อตกลงของพวกเราจะได้ผ่านเหมือนกัน"
So, international, business and even the Republican base will all be calling for a Republican replacement plan. And, hopefully, we've provided one.
เพราะฉะนั้นธุรกิจระหว่างประเทศ และแม้แต่ฐานพรรครีพับลิกันเอง จะออกมาเรียกร้องแผนทดแทนแห่งพรรครีพับลิกัน และหวังว่า พวกเราวางแผนเอาไว้แล้ว
CA: Thank you so much, Ted.
คริส: ขอบคุณมากครับ เท็ด
TH: Thank you, Chris.
เท็ด: ขอบคุณครับ คริส
(Applause)
(เสียงปรบมือ)