A mountain separating two lakes.
ภูเขากั้นทะเลสาบสองแห่ง ออกจากกัน
A room papered floor to ceiling with bridal satins.
ห้องที่ปกคลุมไปด้วยผ้าซาติน ของชุดเจ้าสาว จากพื้นถึงเพดาน
The lid of an immense snuffbox.
ฝาของกล่องยานัตถุ์ขนาดยักษ์
These seemingly unrelated images take us on a tour of a sperm whale’s head in Herman Melville’s "Moby Dick." On the surface, the book is the story of Captain Ahab’s hunt for revenge against Moby Dick, the white whale who bit off his leg. But though the book features pirates, typhoons, high-speed chases, and giant squid, you shouldn’t expect a conventional seafaring adventure. Instead, it’s a multilayered exploration of not only the intimate details of life aboard a whaling ship, but also subjects from across human and natural history, by turns playful and tragic, humorous, and urgent.
ภาพของวัตถุต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกันนี้ พาเราท่องไปในหัวของวาฬหัวทุย ในนวนิยายของ เฮอร์แมน เมลวิลล์ เรื่อง โมบี ดิก โครงเรื่องชั้นแรก เป็นเรื่องของกัปตัน อาฮับ ตามล้างแค้นเจ้าโมบี ดิก วาฬเผือกที่กัดขาของเขาขาด แต่นวนิยายก็ยังประกอบด้วย โจรสลัด พายุไต้ฝุ่น การไล่ตามด้วยความเร็วสูง และปลาหมึกยักษ์ คุณไม่ควรคาดหวังว่าจะอ่าน เรื่องผจญภัยทางทะเลตามแบบเดิม ๆ แต่มันกลับเป็นการผจญภัยที่ซับซ้อน ที่ไม่ได้มีเพียงรายละเอียด เกี่ยวกับชีวิตบนเรือล่าวาฬ แต่มันยังเกี่ยวข้องไปถึงประเด็นความเป็น มนุษย์และประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติ โดยสลับไปมาระหว่างกับเรื่องขำขัน เรื่องเศร้า และเรื่องตื่นเต้นระทึกขวัญ
The narrator guiding us through these explorations is a common sailor called Ishmael. Ishmael starts out telling his own story as he prepares to escape the “damp and drizzly November in [his] soul” by going to sea. But after he befriends the Pacific Islander Queequeg and joins Ahab’s crew aboard the Pequod, Ishmael becomes more of an omniscient guide for the reader than a traditional character. While Ahab obsesses over revenge and first mate Starbuck tries to reason with him, Ishmael takes us on his own quest for meaning throughout “the whole universe, not excluding its suburbs.” In his telling, life’s biggest questions loom large, even in the smallest details.
ผู้เล่าเรื่องจะพาเราผ่านการเดินทางนี้ ด้วยตัวละครกะลาสีเรือ ชื่อ อิชมาเอล อิชมาเอล เริ่มด้วยการเล่าเรื่องของตัวเอง เขาวางแผนที่จะหนีจาก "ความเปียกปอน หม่นหมอง ราวกับเดือนพฤศจิกายนในใจเขา" ด้วยการเดินทางไปทะเล แต่หลังจากเขารู้จักกับ ชาวเกาะแปซิฟิกควีเควก และสมัครเป็นลูกเรือของกัปตัวอาฮับ บนเรือ พีคอต อิชมาเอลก็กลายเป็นเสียงเล่าที่นำทางผู้อ่าน มากกว่าจะเป็นตัวละครหนึ่ง ในขณะที่กัปตันอาฮับหมกมุ่นกับการแก้แค้น และต้นหนอย่าง สตาร์บัค พยายาม จะให้เหตุผลกับเขา อิชมาเอลพาเราร่วมเดินทางไป กับภารกิจของเขาเองที่ตามหาความหมาย ของ "ทั้งจักรวาลที่รวมไปถึงชายขอบต่าง ๆ" จากการเล่าของเขา คำถามที่สำคัญสุดในชีวิต นั้นยิ่งใหญ่แม้จะเป็นรายละเอียดที่เล็กสุดก็ตาม
Like his narrator, Melville was a restless and curious spirit, who gained an unorthodox education working as a sailor on a series of grueling voyages around the world in his youth. He published "Moby Dick" in 1851, when the United States’ whaling industry was at its height. Nantucket, where the Pequod sets sail, was the epicenter of this lucrative and bloody global industry which decimated the world’s whale populations.
เช่นเดียวกับผู้เล่าเรื่องของเขา เมลวิลล์ ผู้แต่งที่เป็นคนอยู่ไม่นิ่งและช่างสงสัย เขาได้รับการศึกษาไม่เหมือนคนทั่วไป จากการทำงานเป็นกะลาสีเรือ จากการเดินทางอันลำบากยากเย็น รอบโลกในช่วงที่เขายังเด็ก เขาตีพิมพ์ "โมบี ดิก" ในปี 1851 ในตอนที่อุตสาหกรรม การล่าวาฬในอเมริกาอยู่ในจุดสูงสุด แนนทักเก็ต ซึ่งเป็นท่าที่พีคอตออกเรือ เป็นศูนย์กลางของธุรกิจ ที่กำไรงามแต่โชกไปด้วยเลือด ธุรกิจซึ่งทำลายประชากรวาฬของโลก
Unusually for his time, Melville doesn’t shy away from the ugly side of this industry, even taking the whale’s perspective at one point, when he speculates on how terrifying the huge shadows of the ships must be to the creature swimming below. The author’s first-hand familiarity with whaling is evident over and over again in Ishmael’s vivid descriptions. In one chapter, the skin of a whale’s penis becomes protective clothing for a crewman. Chapters with titles as unpromising as “Cistern and Buckets” become some of the novel’s most rewarding as Ishmael compares bailing out a sperm-whale’s head to midwifery, which leads to reflections on Plato. Tangling whale-lines provoke witty reflections on the “ever-present perils” entangling all mortals. He draws on diverse branches of knowledge, like zoology, gastronomy, law, economics, mythology, and teachings from a range of religious and cultural traditions.
เมลวิลล์ต่างจากคนอื่นในยุคนั้น เขาไม่ได้หลีกเลี่ยงการกล่าวถึง ด้านมืดของอุตสาหกรรมนี้ เขายังพรรณนาภาพจากมุมมองของวาฬ ว่าเงาที่เกิดจากเรืออันใหญ่โต นั้นจะน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน สำหรับสัตว์ที่กำลังว่ายน้ำอยู่ข้างล่าง สิ่งแรกที่ผู้เขียนหยิบยื่นความคุ้นเคย เกี่ยวกับการล่าวาฬคือความชัดเจน ผ่านคำบรรยายโดยละเอียด ของอิชมาเอลอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในบทที่หนึ่ง หนังจากองคชาติของวาฬ ได้กลายมาเป็นชุดของลูกเรือ บทอื่น ๆ ที่มีชื่อบทไม่น่าสนใจอย่าง "Cistern and Buckets" กลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของ นิยายที่ได้รับรางวัลมากที่สุด เพราะอิชมาเอลนั้นได้เปรียบเทียบส่วนหัว ของวาฬหัวทุยกับการตั้งครรภ์ ซึ่งนำไปสู่การการสะท้อนตามแนวคิดของเพลโต การที่วาฬนั้นเข้าไปพันกับอวนดักวาฬ สะท้อนให้เห็นถึงไหวพริบปฏิภาณการเอาตัวรอด จากบท "ever-present perils" ซึ่งเกี่ยวพันกับความตายทั้งสิ้น เขาได้เขียนโดยมีความหลากหลายทางสาขาวิชา ทั้งสัตววิทยา การทำอาหาร กฎหมาย เศรษฐศาสตร์ ตำนานและคำสอนจากศาสนาและวัฒนธรรมต่าง ๆ
The book experiments with writing style as much as subject matter. In one monologue, Ahab challenges Moby Dick in Shakespearean style: “Towards thee I roll, thou all-destroying but unconquering whale; to the last I grapple with thee; from hell’s heart I stab at thee; for hate’s sake I spit my last breath at thee.” One chapter is written as a playscript, where members of the Pequod’s multi-ethnic crew chime in individually and in chorus. African and Spanish sailors trade insults while a Tahitian seaman longs for home, Chinese and Portuguese crewmembers call for a dance, and one young boy prophesies disaster. In another chapter, Ishmael sings the process of decanting whale oil in epic style, as the ship pitches and rolls in the midnight sea and the casks rumble like landslides.
หนังสือเล่มนี้ได้ทำการทดลองเกี่ยวกับแนวทาง การเขียนพอ ๆ กับเนื้อหาสาระสำคัญในหนังสือ มีอยู่ตอนหนึ่งที่กัปตันอาฮับได้พูดเย้ย โมบี ดิก ในแบบของเช็คสเปียร์ สำหรับเจ้าข้าย่อยยับ เจ้าทำลายซึ่งทุกสิ่ง แต่มิอาจเอาชนะ สำหรับครั้งสุดท้ายที่ข้าฟาดฟันกับเจ้า จากหัวใจของนรกข้าขอทิ่มแทงเจ้า สำหรับลมหายใจสุดท้ายของข้า ข้าขอใช้สาปแช่งเจ้า ในบทหนึ่งนั้นก็ถูกเขียนในแบบของบทละคร โดยความหลายหลายเชื้อชาติบนเรือพีคอต มีโอกาสได้ร้องทั้งแบบเดี่ยวและประสานเสียง ลูกเรือแอฟริกันและสเปนนั้นจะร้องเหยียดกัน ขณะที่พวกชาวเกาะทาฮิตีจะร้องคิดถึงบ้าน ฝั่งลูกเรือชาวจีนและโปรตุเกส มักจะร้องเล่นเต้นรำ และเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ราวกับหายนะ ในบทหนึ่ง อิชมาเอลได้ร้องเพลงเกี่ยวกับขั้นตอน การไหลหยดของน้ำมันวาฬอย่างมีชั้นเชิง ขณะที่เรือกำลังล่องฝ่าไป กลางทะเลยามค่ำคืน และถังก็ก็ส่งเสียงดังราวกับดินถล่ม
A book so wide-ranging has something for everyone. Readers have found religious and political allegory, existential enquiry, social satire, economic analysis, and representations of American imperialism, industrial relations and racial conflict. As Ishmael chases meaning and Ahab chases the white whale, the book explores the opposing forces of optimism and uncertainty, curiosity and fear that characterize human existence no matter what it is we’re chasing. Through "Moby Dick’s" many pages, Melville invites his readers to leap into the unknown, to join him on the hunt for the “ungraspable phantom of life.”
หนังสือมีเนื้อหาค่อนข้างกว้าง มีอะไรให้ทุกคนค้นหา ผู้อ่านจะได้พบกับเรื่องราว ที่เปรียบเปรยถึงศาสนาและการเมือง การตั้งคำถามเกี่ยวกับอัตถิภาวนิยม, การเสียดสีสังคม, การวิเคราะห์เศรษฐกิจ และการนำเสนอเกี่ยวกับ จักรวรรดินิยมของอเมริกา ความสัมพันธ์ระหว่างเครืออุตสาหกรรม และความขัดแย้งทางเชื้อชาติ ขณะที่อิชมาเอลกำลังไล่ลาหาความหาย และกัปตันอาฮับที่ไล่าลาหาวาฬเผือกตัวนั้น หนังสือได้พาสำรวจถึงด้านตรงข้ามของ การมองโลกในแง่ดีและความไม่แน่นอนต่าง ๆ ความอยากรู้อยากเห็นและความกลัว ที่บ่งบอกถึงลักษณะการดำรงอยู่ของมนุษย์ ไม่ว่าอะไรที่เราก็กำลังไล่ตามอยู่นั้น ผ่านหน้าหนังสือของ "โมบี ดิก" เมลวิลล์ได้เชื้อเชิญผู้อ่านของเขา เข้าสู่ดินแดนที่ไม่อาจล่วงรู้ เพื่อร่วมออกเดินทางไปกับเขาเพื่อไล่ล่า "สิ่งหลอกหลอนชีวิตที่ไม่อาจจะเข้าใจได้"