This sound, this smell, this sight all remind me of the campfires of my childhood, when anyone could become a storyteller in front of the dancing flames. There was this wondrous ending when people and fire fell asleep almost in unison. It was dreaming time.
เสียงนี้ กลิ่นนี้ ภาพนี้ ชวนให้ผมนึกถึงรอบกองไฟ สมัยที่ผมยังเป็นเด็ก ใครก็กลายเป็นนักเล่าเรื่องได้ ต่อหน้าเปลวไฟที่พลิ้วไหว และบทสรุปที่สวยงาม ยามที่คนและกองไฟเข้าสู่ภวังค์แทบจะพร้อมกัน เป็นเวลาของความฝัน
Now my story has a lot to do with dreaming, although I'm known to make my dreams come true. Last year, I created a one-man show. For an hour and a half I shared with the audience a lifetime of creativity, how I pursue perfection, how I cheat the impossible.
เรื่องราวของผมเกี่ยวกับการฝัน แม้ว่าจะเป็นที่รู้กันว่า ผมได้ทำฝันของผมให้เป็นจริง เมื่อปีที่แล้ว ผมได้จัดงานทอล์กโชว์ขึ้น ในเวลาชั่วโมงครึ่ง ผมได้ร่วมกันกับผู้ฟัง ถึงช่วงชีวิตของความคิดสร้างสรรค์ ถึงวิธีที่ผมไขว่คว้าความสมบูรณ์แบบ วิธีที่ผมเปลี่ยนความหมายของความเป็นไปไม่ได้
And then TED challenged me: "Philippe, can you shrink this lifetime to 18 minutes?" (Laughter) Eighteen minutes, clearly impossible. But here I am. One solution was to rehearse a machine gun delivery in which every syllable, every second will have its importance and hope to God the audience will be able to follow me. No, no, no. No, the best way for me to start is to pay my respects to the gods of creativity. So please join me for a minute of silence.
หลังจากนั้น TED ก็ท้าทายผมว่า ฟิลิปป์ คุณสามารถย่อช่วงชีวิตนั้นภายใน 18 นาทีได้มั้ย (เสียงหัวเราะ) สิบแปดนาที ไม่มีทางเป็นไปได้แน่ๆ อย่างไรก็ตาม ผมก็อยู่ที่นี่แล้ว หนึ่งทางแก้ก็คือ พูดเลียนแบบเครื่องยิงกระสุน เปล่งเสียงทุกพยางค์เหมือนๆกัน แล้วหวังกับพระเจ้า ให้ผู้ฟังเข้าใจผมได้ ไม่ ไม่ ไม่ใช่ วิธีเริ่มต้นที่ดีที่สุดของผม คือให้ความเคารพกับเทพเจ้าของความคิดสร้างสรรค์ โปรดอยู่ในความสงบร่วมกับผมเป็นเวลาหนึ่งนาทีครับ
Okay, I cheated, it was a mere 20 seconds. But hey, we're on TED time.
โอเค ผมโกงครับ เมื่อกี้แค่ 20 วินาทีเท่านั้น แต่เอาเถอะครับ เราอยู่ในเวลาของ TED
When I was six years old, I fell in love with magic. For Christmas I got a magic box and a very old book on card manipulation. Somehow I was more interested in pure manipulation than in all the silly little tricks in the box. So I looked in the book for the most difficult move, and it was this.
ตอนที่ผมอายุหกขวบ ผมชอบมายากลเอามากๆ ตอนคริสต์มาส ผมได้รับกล่องวิเศษเป็นของขวัญ แล้วก็หนังสือเก่าเกี่ยวกับกลไพ่เล่มหนึ่ง ไม่รู้ทำไม ผมสนใจมายากลไพ่ มากกว่ากลเล็กๆ ง่ายๆ ในกล่อง ผมเลยหาอันที่ยากที่สุดในหนังสือนั้น และมันก็คือกลนี้ครับ
Now I'm not supposed to share that with you, but I have to show you the card is hidden in the back of the hand. Now that manipulation was broken down into seven moves described over seven pages. One, two, three, four, five, six and seven. And let me show you something else. The cards were bigger than my hands.
ที่จริงผมไม่ควรบอกกลนี้กับคุณ แต่ว่าผมจำเป็นต้องแสดงให้คุณดูว่า ไพ่นั้นถูกซ่อนไว้ข้างหลังของมือผม มายากลไพ่ชุดนี้ แบ่งย่อยได้เป็น 7 ขั้นตอน อธิบายไว้ใน 7 หน้า หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก และเจ็ด ให้ผมบอกคุณอีกอย่างหนึ่ง ตอนนั้นไพ่ใหญ่กว่าฝ่ามือผม
Two months later, six years old, I'm able to do one, two, three, four, five, six, seven. And I go to see a famous magician and proudly ask him, "Well what do you think?" Six years old. The magician looked at me and said, "This is a disaster. You cannot do that in two seconds and have a minuscule part of the card showing. For the move to be professional, it has to be less than one second and it has to be perfect." Two years later, one -- zoop. And I'm not cheating. It's in the back. It's perfect.
สองเดือนหลังจากนั้น หกขวบ ผมสามารถทำหนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก และเจ็ดได้ ผมไปหานักมายากลชื่อดังคนหนึ่ง แล้วถามกับเขาด้วยความภูมิใจว่า เป็นอย่างไรบ้างครับ หกขวบ นักมายากลคนนั้นมองแล้วก็ตอบกับผมว่า ยังใช้ไม่ได้ เธอยังไม่สามารถแสดงไพ่กลในสองวินาที และยังเห็นส่วนเล็กๆ ของไพ่อยู่ ถ้าอยากให้กลดูเป็นมืออาชีพ ต้องใช้เวลาน้อยกว่าวินาทีเดียว และต้องสมบูรณ์แบบ สองปีหลังจากนั้น หนึ่ง ... ไม่โกงครับ ไพ่อยู่ข้างหลัง สมบูรณ์แบบ
Passion is the motto of all my actions. As I'm studying magic, juggling is mentioned repeatedly as a great way to acquire dexterity and coordination. Now I had long admired how fast and fluidly jugglers make objects fly. So that's it. I'm 14; I'm becoming a juggler.
ใจรักคือคำขวัญ ผลักให้ผมทำทุกสิ่ง ขณะที่ผมเรียนรู้มายากลอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเรื่องการโยนวัตถุอยู่บ่อยๆ ว่าเป็นวิธีที่ดีในการฝึกฝนความเชี่ยวชาญ และการประสานงาน ผมชื่นชมความเร็ว และความลื่นไหล ที่นักโยนวัตถุทำให้ของเคลื่อนที่ไปได้ นั่นแหละครับ เมื่ออายุสิบสี่ ผมกลายเป็นนักโยนวัตถุ
I befriend a young juggler in a juggling troupe, and he agrees to sell me three clubs. But in America you have to explain. What are clubs? Nothing to do with golf. They are those beautiful oblong objects, but quite difficult to make. They have to be precisely lathed. Oh, when I was buying the clubs, somehow the young juggler was hiding from the others. Well I didn't think much of it at the time.
ผมก็ตีสนิทกับนักโยนวัตถุคนหนึ่งในคณะกายกรรม และเขาก็ได้ขายคลับให้ผมสามอัน ในอเมริกา ต้องอธิบายครับว่าคลับคืออะไร ไม่เกี่ยวกับการตีกอล์ฟนะครับ คลับคือ วัตถุยาวรี แต่ว่ามันทำยากครับ เพราะว่าต้องกลึงอย่างแม่นยำ ตอนที่ผมซื้อคลับนั้น เหมือนกับนักโยนวัตถุคนนั้นกำลังหลบหน้าคนอื่น ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ณ ขณะนั้น
Anyway, here I was progressing with my new clubs. But I could not understand. I was pretty fast, but I was not fluid at all. The clubs were escaping me at each throw. And I was trying constantly to bring them back to me. Until one day I practiced in front of Francis Brunn, the world's greatest juggler. And he was frowning. And he finally asked, "Can I see those?" So I proudly showed him my clubs. He said, "Philippe, you have been had. These are rejects. They are completely out of alignment. They are impossible to juggle." Tenacity is how I kept at it against all odds.
ผมก็เลยฝึกเล่นกับคลับของผมไปเรื่อยๆ แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจ ผมทำได้เร็ว แต่ว่าท่วงท่าไม่ลื่นไหลเลย คลับหนีผมไปทุกครั้ง เมื่อผมโยน แล้วผมก็จำต้องเอาคลับพวกนั้นกลับมา จนวันหนึ่ง ผมฝึกต่อหน้า ฟรานซิส บรุนน์ นักโยนวัตถุที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก และเขาก็ขมวดติ้ว แล้วเขาก็ขอดูคลับที่ผมโยน ผมจึงโชว์คลับสามอันนั้นอย่างภูมิใจกับเขา เขาบอกว่า ฟิลิปป์ เธอถูกหลอกแล้ว คลับพวกนี้ใช้ไม่ได้ มันกลึงไม่ได้รูป มันเอามาโยนไม่ได้หรอก ยึดมั่น ผมยังคงพยามยามฝึกฝน ความเป็นไปได้ถูกต่อต้าน
So I went to the circus to see more magicians, more jugglers, and I saw -- oh no, no, no, I didn't see. It was more interesting; I heard. I heard about those amazing men and women who walk on thin air -- the high-wire walkers. Now I have been playing with ropes and climbing all my childhood, so that's it. I'm 16; I'm becoming a wire walker.
ผมจึงเข้าไปในคณะละครสัคว์ เพื่อรู้จักกับนักมายากล นักโยนวัตถุ และผมก็ได้เห็น ไม่ ผมไม่ได้เห็น น่าสนใจกว่านั้น ผมได้ยิน ได้ยินถึงผู้คนมหัศจรรย์ขายหญิง ที่เดินอยู่บนอากาศ เหล่านักไต่ลวด ผมซึ่งเล่นปีนป่ายกับเชือกมาตลอดในวัยเด็ก นั่นและครับ อายุสิบหก ผมกำลังจะเป็นนักไต่ลวด
I found two trees -- but not any kind of trees, trees with character -- and then a very long rope. And I put the rope around and around and around and around and around till I had no more rope. Now I have all of those ropes parallel like this. I get a pair of pliers and some coat hangers, and I gather them together in some kind of ropey path. So I just created the widest tightrope in the world. What did I need? I needed the widest shoes in the world. So I found some enormous, ridiculous, giant ski boots and then wobbly, wobbly I get on the ropes.
ผมมีต้นไม้สองต้น ไม่ใช่ต้นไหนก็ได้นะ ต้นไม้ที่มีลำต้นยาวๆ กับเชือกยาวเส้นหนึ่ง ผมก็ขึงเชื่อกไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ จนกระทั่งเชือกหมด เชื่อกพวกนั้นก็ขนานกันแบบนั้น ผมก็เอาคีมมาแกะไม้แขวนเสื้อ แล้วก็ใช้ลวดนั่น รัดเชือกให้เป็นทางเดินเดี่ยวๆ ผมได้สร้างลวดขึงที่ใหญ่ที่สุดในโลก คราวนี้ผมต้องการรองเท้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีก ผมก็เจอรองเท้าสกีใหญ่มากๆอยู่คู่หนึ่ง จากนั้นผมก็ขึ้นไปอยู่บนลวดที่โคลงเคลงนั่น
Well within a few days I'm able to do one crossing. So I cut one rope off. And the next day one rope off. And a few days later, I was practicing on a single tightrope. Now you can imagine at that time I had to switch the ridiculous boots for some slippers. So that is how -- in case there are people here in the audience who would like to try -- this is how not to learn wire walking.
ไม่กี่วันต่อมา ผมก็ข้ามไปยังต้นไม้อีกฝั่งได้ ผมจึงตัดเชือกออกเส้นหนึ่ง วันต่อมา อีกเส้นหนึ่ง ไม่กี่วันต่อมา ผมกำลังฝึกไต่ลวดอยู่บนเส้นลวดเดี่ยว คุณคงจะนึกออกครับว่า ผมต้องเปลี่ยนจากรองเท้าสกีคู่ใหญ่ๆ มาเป็นรองเท้าแตะ นั่นคือ ในกรณีที่ผู้ชมอยากลองดูนะครับ นั่นคือ วิธีที่ไม่ควรจะลองเดินไต่ลวด
(Laughter)
(เสียงหัวเราะ)
Intuition is a tool essential in my life. In the meantime, I am being thrown out of five different schools because instead of listening to the teachers, I am my own teacher, progressing in my new art and becoming a street juggler.
ความริเริ่ม เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตของผม ในช่วงเวลาเดียวกับ ผมถูกเชิญออกจากห้าโรงเรียน เพราะแทนที่ผมจะฟังที่ครูสอน ผมเป็นครูของผมเอง ในการพัฒนาความสามารถของผม และกลายเป็นนักโยนวัตถุริมถนน
On the high wire, within months, I'm able to master all the tricks they do in the circus, except I am not satisfied.
บนลวดขึงนั้น ภายในไม่กี่เดือน ผมก็สามารถแสดงกลที่เขาทำในคณะละครสัตว์ได้หมด แต่ว่าผมก็ยังไม่พึงพอใจ
I was starting to invent my own moves and bring them to perfection. But nobody wanted to hire me. So I started putting a wire up in secret and performing without permission. Notre Dame, the Sydney Harbor Bridge, the World Trade Center. And I developed a certitude, a faith that convinced me that I will get safely to the other side. If not, I will never do that first step.
ผมเลยเริ่มที่จะสร้างสรรค์ท่าทางของผมเอง และทำให้มันสมบูรณ์แบบ แต่ว่าไม่มีใครอยากจะจ้างผม ผมเลยเริ่มขึงเชือกอย่างลับๆ และแสดงโดยไม่ได้รับคำอนุญาต วิหารโนเทรอดาม สะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์ ตึกเวิลด์เทรดเซนเตอร์ และผมก็สร้างความมั่นใจ ศรัทธา ที่ทำให้ผมเชื่อว่า ผมจะเดินถึงอีกข้างหนึ่งได้อย่างปลอดภัย ถ้าไม่ ผมก็จะไม่เดินก้าวแรก
Well nonetheless, on the top of the World Trade Center my first step was terrifying. All of a sudden the density of the air is no longer the same. Manhattan no longer spreads its infinity. The murmur of the city dissolves into a squall whose chilling power I no longer feel. I lift the balancing pole. I approach the edge. I step over the beam. I put my left foot on the cable, the weight of my body raised on my right leg anchored to the flank of the building. Shall I ever so slightly shift my weight to the left? My right leg will be unburdened, my right foot will freely meet the wire. On one side, a mass of a mountain, a life I know. On the other, the universe of the clouds, so full of unknown we think it's empty. At my feet, the path to the north tower -- 60 yards of wire rope. It's a straight line, which sags, which sways, which vibrates, which rolls on itself, which is ice, which is three tons tight, ready to explode, ready to swallow me. An inner howl assails me, the wild longing to flee. But it is too late. The wire is ready. Decisively my other foot sets itself onto the cable.
แม้กระนั้น บนยอดตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ก้าวแรกก็เป็นสิ่งที่น่ากลัว ชั่ววินาทีนั้้น ผมรู้สึกว่าความหนาแน่นอากาศก็เปลี่ยนไป แมนฮัตตันไม่ได้แผ่ขยายไปถึงอนันต์ เสียงพึมพำของผู้คนเบื้องล่างกลายเป็นเสียงกรีดร้อง ที่ผมไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น ผมถือไม้พลอง เดินไปที่ขอบตึก ก้าวผ่านคาน วางเท้าซ้ายบทสายเคเบิล น้ำหนักของตัวผมฝากอยู่ที่ขาขวา ยึดกับด้านข้างของตึกไว้อย่างมั่นคง ผมควรจะได้เริ่มทิ้งน้ำหนักไปทางซ้ายหรือไม่ ขาขวาของผมก็จะถูกปลดปล่อย เท้าขวาก็จะเจอกับสายเคเบิล ข้างหนึ่งคือพื้นดินของภูเขา ที่ผมรู้จักคลอดชัวิต อีกข้าง เป็นจักรวาลของเมฆ มีแต่ของที่เราไม่รู้ ความว่างเปล่า ที่เท้าของผม ทางเดินไปสู่นอร์ททาวเวอร์ ลวดยาว 60 หลา เป็นเส้นตรง ที่หย่อน ที่โคลงเคลง ที่สั่น ที่หมุนไปรอบๆ ที่เย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง ที่มัดไว้แน่น พร้อมจะตึงขาด พร้อมที่จะกลืนผมลงไป เสียงเรียกร้องจากภายในโจมตีผม ความหวังที่จะหนี แต่มันช้าเกินไป ลวดเส้นนั้นพร้อม เท้าอีกข้างของผมวางบนลวดเคเบิลด้วยความแน่วแน่
Faith is what replaces doubt in my dictionary.
ศรัทธา คือสิ่งที่ทดแทนความไม่แน่ใจ ในพจนานุกรมของผม
So after the walk people ask me, "How can you top that?" Well I didn't have that problem. I was not interested in collecting the gigantic, in breaking records. In fact, I put my World Trade Center crossing at the same artistic level as some of my smaller walks -- or some completely different type of performance. Let's see, such as my street juggling, for example.
หลังจากการเดินครั้งนั้น คนถามผมว่า จะทำลายสถิติตัวเองได้อย่างไร ผมไม่มีปัญหาครับ เพราะผมไม่ได้ใส่ใจกับการสะสมความยิ่งใหญ่ ในการทุบสถิติ ที่จริง สำหรับผมการข้ามตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ก็เป็นศิลปะระดับเดียวกับการเดินผู้อื่นๆ หรือการแสดงแบบที่ต่างออกไปด้วยซ้ำ เช่น การโยนวัตถุของผม เป็นตัวอย่าง
So each time I draw my circle of chalk on the pavement and enter as the improvising comic silent character I created 45 years ago, I am as happy as when I am in the clouds.
แต่ละครั้ง ผมวาดรูปวงกลมบนฟุตบาท เข้าไปอยู่ในวงกลมนั้น ทำเป็นตัวละครใบ้ ที่ผมสร้างไว้ 45 ปีที่แล้ว ผมก็มีความสุขแบบเดียวกับที่ผมอยู่บนเหล่าก้อนเมฆ
But this here, this is not the street. So I cannot street juggle here, you understand. So you don't want me to street juggle here, right? You know that, right? You don't want me to juggle, right?
แต่ที่นี่ครับ ที่นี่ไม่ใช่ถนนที่ผมคุ้นเคย ผมไม่สามารถโยนของที่นี่ได้ เข้าใจนะครับ คุณก็ไม่อยากให้ผมโยนวัตถุที่นี่ ใช่ไหมครับ คุณรู้ใช่ไหมครับ คุณไม่อยากให้ผมโยนของที่นี่
(Applause)
(เสียงปรบมือ)
(Music)
(เสียงดนตรี)
(Applause)
(เสียงปรบมือ)
Thank you. Thank you.
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
Each time I street juggle I use improvisation. Now improvisation is empowering because it welcomes the unknown. And since what's impossible is always unknown, it allows me to believe I can cheat the impossible.
แต่ละครั้งที่ผมโยนของ ผมแสดงสด ประสมประสาน การประสมประสานเป็นสิ่งที่มีพลัง เพราะมันเปิดรับสิ่งที่เราไม่รู้จัก เพราะสิ่งที่เป็นไปไม่ได้มักเป็นสิ่งที่เราไม่รู้จัก มันจึงทำให้ผมเชื่อว่าผมสามารถเปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ได้
Now I have done the impossible not once, but many times. So what should I share? Oh, I know. Israel.
ผมได้ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่หลายครั้ง เรื่องไหนดีล่ะที่ผมควรจะแบ่งปันกับพวกคุณ ผมรู้แล้ว เรื่องอิสราเอล
Some years ago I was invited to open the Israel Festival by a high-wire walk. And I chose to put my wire between the Arab quarters and the Jewish quarter of Jerusalem over the Ben Hinnom Valley. And I thought it would be incredible if in the middle of the wire I stopped and, like a magician, I produce a dove and send her in the sky as a living symbol of peace.
หลายปีมาแล้ว ผมได้รับเชิญให้ไปร่วมเปิดงานเทศกาลอิสราเอล ด้วยการเดินไต่ลวด ผมเลือกที่จะขึงเชือกของผม พาดผ่านส่วนอาหรับ และส่วนยิวของกรุงเยรูซาเลม ข้ามหุบเขาเบนฮินนอม และผมคิดว่ามันจะเป็นอะไรที่เหลือเชื่อมากๆ หากว่า ตรงกลางของลวดเคเบิลนั้น ผมหยุด และเหมือนกับนักมายากล ผมเสกนกพิราบ ให้โบยบินไปในท้องฟ้า เป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ
Well now I must say, it was a little bit hard to find a dove in Israel, but I got one. And in my hotel room, each time I practiced making it appear and throwing her in the air, she would graze the wall and end up on the bed. So I said, now it's okay. The room is too small. I mean, a bird needs space to fly. It will go perfectly on the day of the walk.
ผมต้องบอกครับว่า แม้ว่านกพิราบในอิสราเอลจะหายาก ผมก็หามาจนได้ตัวหนึ่ง ในห้องพักโรงแรม ทุกครั้งที่ผมฝึกเสก และปล่อยเธอไปในอากาศ นกเธอก็จะบินเฉียดไปที่กำแพง และเกาะที่เตียง ผมก็คิดว่าใช้ได้แล้ว ห้องมันอาจจะเล็กเกินไป นั่นคือ นกต้องการพื้นที่สำหรับบิน ทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบในวันนั้น
Now comes the day of the walk. Eighty thousand people spread over the entire valley. The mayor of Jerusalem, Teddy Kollek, comes to wish me the best. But he seemed nervous. There was tension in my wire, but I also could feel tension on the ground. Because all those people were made up of people who, for the most part, considered each other enemies.
คราวนี้ก็มาถึงวันแสดงจริง ผู้ชมร่วมแปดหมื่นคนก็รอชมการเดินของผม เทดดี คอลเล็ก นายกเทศมนตรีกรุงเยรูซาเลม มาอวยพรผม แต่ว่าเขาดูวิตกกังวล มันมีแรงตึงในเชือกของผม และผมก็ยังรู้สึกได้ถึงความตึงเครียดของเมือง เพราะว่าผู้คนกรุงเยรูซาเลม เป็นกลุ่มคนที่หลากหลาย และส่วนมาก พิจารณาว่าเป็นศัตรูซึ่งกันและกัน
So I start the walk. Everything is fine. I stop in the middle. I make the dove appear. People applaud in delight. And then in the most magnificent gesture, I send the bird of peace into the azure. But the bird, instead of flying away, goes flop, flop, flop and lands on my head. (Laughter) And people scream. So I grab the dove, and for the second time I send her in the air. But the dove, who obviously didn't go to flying school, goes flop, flop, flop and ends up at the end of my balancing pole.
ผมก็เริ่มเดิน ทุกอย่างเป็นไปปกติ ผมหยุดอยู่ตรงกลาง ผมเสกนกพิราบ ผู้คนปรบมือด้วยความพอใจ ด้วยท่าทีที่สง่าที่สุด ผมส่งนกสันติภาพตัวนั้นไปสู่ท้องฟ้ากว้าง แต่นกตัวนั้น แทนที่จะบินหนึไป บินต่ำ ต่ำ ต่ำ และเกาะที่ศีรษะของผม (เสียงหัวเราะ) ผู้คนก็กรีดร้อง ผมจึงจับนกพิราบตัวนั้น แล้วโยนมันออกไปสู่ท้องฟ้าเป็นครั้งที่สอง แต่นกตัวนั้น เนื่องจากไม่ได้เข้าโรงเรียนการบินแน่ๆ บินเลียดลง เลียดลง และมาเกาะที่ปลายข้างหนึ่งของไม้คานถ่วงน้ำหนักของผม
(Laughter)
(เสียงหัวเราะ)
You laugh, you laugh. But hey. I sit down immediately. It's a reflex of wire walkers. Now in the meantime, the audience, they go crazy. They must think this guy with this dove, he must have spent years working with him. What a genius, what a professional.
คุณหัวเราะ หัวเราะครับ แต่ว่า ผมนั่งลงทันที มันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของนักไต่ลวด ขณะเดียวกันนั้น ผู้ชมก็ปลาบปลื้มมากๆ พวกเขาคงคิดว่า ผู้ชายคนนี้กับนกพิราบตัวนี้ คงฝึกด้วยกันมาหลายปี อัจฉริยะ และมืออาชีพมากๆ
(Laughter)
(เสียงหัวเราะ)
So I take a bow. I salute with my hand. And at the end I bang my hand against the pole to dislodge the bird. Now the dove, who, now you know, obviously cannot fly, does for the third time a little flop, flop, flop and ends up on the wire behind me. And the entire valley goes crazy.
ผมจึงโค้งคำนับ และโบกมือทักทาย เพื่อจะใช้มือของผมตีที่ไม้คาน ให้นกนั้นบินออกไป คราวนี้ นกตัวนั้น ซึ่งบินไม่ได้แน่ๆ เป็นครั้งที่สาม ที่บินต่ำลง ต่ำลง และมาเกาะที่เส้นลวดอยู่ข้างหลังผม และก็เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชม
Now but hold on, I'm not finished. So now I'm like 50 yards from my arrival and I'm exhausted, so my steps are slow. And something happened. Somebody somewhere, a group of people, starts clapping in rhythm with my steps. And within seconds the entire valley is applauding in unison with each of my steps. But not an applause of delight like before, an applause encouragement. For a moment, the entire crowd had forgotten their differences. They had become one, pushing me to triumph.
แต่คราวนี้ ผมยังเดินไม่เสร็จครับ อีกประมาณ 50 หลา กว่าจะถึงจุดหมาย เนื่องจากผมเหนื่อย ผมจึงก้าวแต่ละก้าวแบบช้า แล้วบางอย่างก็เกิดขึ้น คนหนึ่งจากที่หนึ่ง หรือกลุ่มคน ปรบมือเป็นจังหวะกับก้าวเดินของผม ภายในไม่กี่วินาที ทั้งหุบเขา ก็ปรบมือด้วยกับอย่างพร้อมเพรียง สำหรับแต่ละก้าวของผม แต่ไม่ใช่เสียงปรบมือด้วยความพึงพอใจ หากแต่เป็นการปรบมือให้กำลังใจ ในช่วงเวลานั้น ฝูงชนได้ลืมถึงความแตกต่างของตัวเอง เขารวมกันเป็นหนึ่ง เพื่อผลักดันให้ผมไปถึงจุดหมาย
I want you just for a second to experience this amazing human symphony. So let's say I am here and the chair is my arrival. So I walk, you clap, everybody in unison.
สักวินาทีหนึ่ง ผมอยากให้คุณ ได้สัมผัสประสบการณ์ประสานเสียงอันวิเศษของมนุษย์ สมมติว่า ผมอยู่ตรงนี้ และเก้าอี้ตัวนั้นเป็นจุดหมายของผม ผมจะเดิน และทุกคนปรบมือนะครับ โดยพร้อมเพรียง
(Clapping)
(เสียงตบมือเป็นจังหวะ)
(Applause)
(เสียงปรบมือ)
So after the walk, Teddy and I become friends. And he tells me, he has on his desk a picture of me in the middle of the wire with a dove on my head. He didn't know the true story. And whenever he's daunted by an impossible situation to solve in this hard-to-manage city, instead of giving up, he looks at the picture and he says, "If Philippe can do that, I can do this," and he goes back to work.
หลังจากการเดินครั้งนั้น เท็ดดี้กับผมก้เป็นเพื่อนกัน และเขาบอกผมว่า บนโต๊ะของเขามีภาพของผม อยู่ตรงกลางของทางเดินลวด และนกพิราบบนศีรษะของผม เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริง เมื่อเขาเผชิญกับสถานการณ์ที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ เพื่อแก้ปัญหา ในเมืองที่มีการจัดการยากลำบาก แทนที่เขาจะเลิกล้มความตั้งใจ เขาดูที่รูปใบนั้น และพูดว่า ถ้าฟิลิปป์ทำได้ ฉันก็ทำได้เหมือนกัน แล้วเขาก็ไปทำงานต่อ
Inspiration. By inspiring ourselves we inspire others. I will never forget this music, and I hope now neither will you. Please take this music with you home, and start gluing feathers to your arms and take off and fly, and look at the world from a different perspective. And when you see mountains, remember mountains can be moved.
แรงบันดาลใจ ด้วยการผลักดันตนเอง เราสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่น ผมไม่เคยที่จะลืมเสียงดนตรีนี้ และผมหวังว่าคุณก็คงจะไม่ลืมเหมือนกัน โปรดรับเสียงดนตรีนี้ไว้กับคุณ ติดปีกให้กับแขนของคุณ แล้วบินถลาออกไป มองโลกจากมุมมองใหม่ เมื่อคุณเห็นภูเขา คุณจะเห็นว่า ภูเขาก็สามารถเคลื่อนที่ได้
(Applause)
(เสียงปรบมือ)
Thank you. Thank you. Thank you.
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
(Applause)
(เสียงปรบมือ)